กิจกรรมที่ 5
ครูถนอม ศิริรักษ์
การศึกษา ชีวิต และการทำงาน
ครูถนอมมีความสามารถในเรื่องการแปรรูปอาหาร
ได้เริ่มหัดเรียนทำน้ำบูดูจากคุณป้า เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๔๘๕ โดยนำปลาทะเลตัวเล็ก
มาหมักทำน้ำบูดู
ด้วยการใช้สับปะรดหั่นเป็นแว่นหรือใช้ส้มแขกรองก้นโอ่งเพื่อลดความเค็มของเกลือ
โรยด้วยน้ำตาลแว่นหรือน้ำตาลโตนดเล็กน้อย เพื่อลดความคาวของปลา
และจากการศึกษาดูงานการทำน้ำปลาจากถิ่นต่างๆ ครูถนอมนำน้ำบูดูส่วนหนึ่งหมักทำน้ำปลา
ใน พ.ศ. ๒๕๒๐ ใส่ขวดบ่มตากแดดนาน ๖-๘เดือน เป็นสูตรเฉพาะของครูถนอม
ต่อมาเมื่อนำเทคโนโลยีสมัยใหม่
ได้แก่ เครื่องบดไฟฟ้าบดเครื่องแกงเข้ามาใช้ ครูถนอมจึงนำสมุนไพรต่างๆ ที่ใช้ในการทำน้ำบูดู
เช่น หอมแดง ใบมะกรูด ตะไคร้ ซึ่งจะนำมาเคี่ยวและในที่สุดต้องกรองทิ้งจนเหลือแต่น้ำบูดูนั้น
ครูถนอมเห็นว่าสมุนไพรดังกล่าวเป็นสมุนไพรที่รับประทานได้ทั้งหมดและให้คุณค่าทางโภชนาการสูง
จึงนำสมุนไพรมาบดให้ละเอียด ทำให้ได้สูตรน้ำบูดูที่มีสมุนไพรบดละเอียดเป็นคนแรก
ทำให้ได้สูตรสมุนไพรที่เข้มข้นและรสหวานกลมกล่อมกว่าเก่า การทำซีอิ้วปลา ปี พ.ศ.
๒๕๑๑ ไปเยี่ยมบุตรชายที่เรียนหนังสือในเมือง พบน้ำบูด๊ที่ค้างขวดเล็กน้อยหลายขวด
เกิดความเสียดายจึงนำมาต้มใหม่ กรองเครื่องปรุงออก
ชิมดูรสชาติคล้ายซีอิ้วอร่อยไม่แพ้ถั่วเหลือง จึงคิดสูตรการทำน้ำซีอิ้วปลา
จากน้ำบูดูได้สำเร็จ
ครูถนอมได้นำความรู้ทั้งหมดมาเผยแพร่แก่ผู้สนใจทั่วภาคใต้
ทั้งภาครัฐและเอกชนมรตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๖ จนปัจจุบัน ทั้งยังเป็นวิทยากรฝึกอบรมแก่ผู้สนใจทั่วไป
รวมทั้งบันทึกเป็นหลักสูตรท้องถิ่นเพื่อใช้สอนในโรงเรียนด้วย
ผลงานของครู
ผลงานของครู
ครูถนอมได้ถ่ายทอดความรู้ต่างๆ
ให้แก่ สมาชิก และกลุ่มแม่บ้านจากชุมชนต่างๆ เพื่อนำไปใช้เองในครัวเรือน
ผู้ประกอบการจนเกิดโรงงาน
อุตสาหกรรมน้ำปลาในภาคใต้ประมาณ
๑๐๐ กว่าแห่ง ล้วนแล้วแต่น้ำสูตรของครูถนอมไปแปรรูปทั้งสิ้น
สร้างรายได้ให้กับโรงงาน โดยขยายได้วันละประมาณ ๑๐,๐๐๐ ขวด ทั่วภาคใต้
ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ได้นำความรู้มาเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวและการประกอบอาชีพ
โดยให้ปฏิบัติต่อจนสามารถทำเองได้
นอกจากนี้ยังถ่ายทอดให้แก่ผู้เรียนในระบบ
ซึ่งสถาบันการศึกษาบางแห่งตระหนักถึงความสำคัญ
จึงได้นำความรู้ดังกล่าวไปจัดทำเป็นหลักสูตรท้องถิ่น
ประยุกต์สิ่งที่ดีของครูมาใช้ในการพัฒนาตนเอง
1.
การมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ
เผื่อแผ่ต่อลูกศิษย์
2.
การเอาใจใส่ เข้าใจลูกศิษย์
3.
การถ่ายทอดความรู้ให้กับลูกศิษย์
โดยไม่หวงแหนวิชา
4.
การเตรียมความพร้อมในการสอน
5.
ความเหมาะสมของเนื้อหาสาระในการสอน
6.
ความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น